เรื่องราวของกอริลลาเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่หลายคนพยายามจะค้นหาความลับของพวกมัน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า กอริลลา เป็นสัตว์ใกล้เคียงกับมนุษย์ชนิดหนึ่ง วันนี้เราจะไปดูเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ กอริลลา ป่าบวินดิ กันบ้างว่ามีอะไรบ้าง
จ่าฝูงมีหน้าทำอะไร
เรื่องแรกเป็นเรื่องของจ่าฝูงของกอริลลาพันธุ์นี้ ซึ่งเรามักจะสังเกตได้ง่ายๆ จากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยตัวผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ขนด้านหลังของมันจะเปลี่ยนเป็นสีขาว เรียกว่า silver back หรือ หลังสีเงิน แต่ละฝูงจะมีกอริลลาหลังสีเงินอย่างน้อย 2-3 ตัว ตัวอาวุโสที่สุดจะทำหน้าที่จ่าฝูง ซึ่งคอยคือปกป้องครอบครัวจากอันตราย รวมถึงจัดการตัวผู้ที่คิดจะท้าทายด้วย
แต่ละวัน กอริลลา ทำอะไรบ้าง
ทีนี้เรามาดูชีวิตประจำวันของมันบ้างดีกว่า สำหรับกอริลลา ป่าบวินดิ นี่พวกมันทำอะไรกันบ้าง บอกเลยว่าชีวิตของพวกมันจะเป็นเรื่องของการกินและการนอน มันใช้เวลาประมาณ 1 ใน 3 ของวันหมดไปกับเรื่องกินและนอน อย่างที่ 2 สำหรับการท่องเที่ยว หาอาหาร และส่วนสุดท้ายคือการพักผ่อน ชีวิตของพวกมันตื่นขึ้นมาก็มองหาอาหาร กินแล้วก็เดินเที่ยวในป่าไปเรื่อยๆ พออิ่มแล้วก็นอนพัก วนไปเรื่อยๆ
ลิงกอริลลาสื่อสารกันอย่างไร
เกร็ดข้อนี่น่าสนใจเลย นั่นคือเรื่องของการสื่อสาร เราเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า กอริลลาพวกนี้เค้าสื่อสารกันอย่างไร กอริลลา ป่าบวินดินั้น ส่วนมากแล้วเวลามันต้องการจะสื่อสารอะไร มักจะสื่อสารด้วยการใช่ท่าทางมากกว่า อย่างเช่น หากต้องการต่อสู้ ก็จะการลุกขึ้นตีอก ชกตัว แล้วก็มีการคำรามเพื่อท้าทายกัน
รักสงบแต่สู้ไม่ถอย
แม้ว่ากอริลลารักสงบเอามากๆ แต่ว่าบางครั้งก็เกิดการต่อสู้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ การต่อสู้จะแบ่งออกเป็นสองกรณีอย่างแรกเป็นการต่อสู้ภายใน ระหว่างตัวผู้เพื่อท้าทายจ่าฝูง หรือ รองจ่าฝูง หากใครชนะก็จะได้ขึ้นไปแทนที่ในตำแหน่งนั้น สองเป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่ม แน่นอนว่าจริงๆแล้วพวกมันจะแบ่งเขตพื้นที่หากินกันอย่างชัดเจน แต่บางครั้งพื้นที่มันก็ทับซ้อนกัน นั่นทำให้พวกมันต้องแสดงความเข้มแข็งเพื่อขับไล่อีกฝ่ายออกไป โดยวิธีการเริ่มต้นจากร้องคำรามแสดงพลัง หรือแสดงท่าทางให้อีกฝ่ายเห็นความแข็งแกร่งของตัวเอง (อย่างเช่น วิ่งไล่กันพร้อมคำรามใส่) หากมีใครยอมแพ้ก็จะหนีไป แต่หากไม่ลงตัวก็ต้องสู้กันโดยหลังจากการต่อสู้ ตัวเมียอาจจะได้จ่าฝูงตัวใหม่ หรือ อาจจะหนีตามตัวผู้ตัวอื่นไปก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจทีเดียว กอริลลา ป่าบวินดิ