กอริลลาภูเขา แตกต่างกับ กอริลลาทั่วไปอย่างไร

Mountain-gorilla-news-site

กอริลลาทั่วไป
จัดเป็น Primate ขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งยังสามารถสืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันได้ มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณตอนกลางของทวีปแอฟริกา ทั้งส่วนเป็นราบต่ำ และบริเวณภูเขาสูง ซึ่งมีระดับความสูงถึง 2,200–4,300 เมตร โดย ‘กอริลลา’ มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด โดยมี DNA ใกล้เคียงกับมนุษย์มากถึงร้อยละ 95–99 เลยทีเดียว

‘กอริลลา’ เป็นสัตว์ชอบสังคม อยู่กันเป็นฝูงและทั้งฝูงก็จะมีจ่าฝูงเพียงตัวเดียว โดยกอริลลาตัวผู้ที่โตเต็มวัย สามารถมีความสูงได้มากกว่า 180 เซนติเมตรเมื่อยืนตรง ร่างกายของ ‘กอริลลา’ จะอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ที่เต็มไปด้วยความบึกบึนแข็งแรงมากกว่ามนุษย์ถึง 6 เท่า เมื่อเกิดอาการตกใจหรือต้องการขู่จะลุกขึ้นยืนด้วย 2 ขาหลังอย่างมั่นคง และทุบหน้าอกตนเองรัวๆ ด้วย 2 แขน พร้อมกับคำรามกึกก้องสร้างความขวัญผวาให้แก่ผู้ที่เข้ามารุกราน จึงทำให้ดูเหมือนสัตว์ที่มีความโหดร้าย ดุ บ้าเลือด ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะกอริลลาเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่หากแต่รักสงบยิ่งกว่าสิ่งใด แถมขี้อายมากๆ ไม่ใช้กำลังถ้าไม่ถูกรบกวน นอกจากนี้สายตาของกอริลลายังดีมาก มองเห็นสิ่งต่างๆ ในระยะไกลได้อย่างชัดเจน

news-Mountain-gorilla-site

กอริลลาภูเขา

สำหรับกอริลลาภูเขาจะมีความแตกต่างจากกอริลลาทั่วไป โดยสามารถพบได้ในถิ่นกระจายพันธุ์ ซึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาสูง บริเวณเทือกเขา Virunga ภายใต้เขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น ได้แก่…

• สาธารณรัฐประชาธิปไตย Congo
• Virunga
• Uganda

โดยจำนวนกอริลลาภูเขาในธรรมชาติมีประมาณ 880 ตัว ในปัจจุบันมีการเปิดการท่องเที่ยวในรูปแบบอันสุดตื่นเต้นเร้าใจ พาทัวร์ชมกอริลลาภูเขาตัวจริงเสียงจริง หากแต่ก็เป็นเรื่องค่อนข้างทำได้ลำบาก เพราะสถานที่อยู่อาศัยของกอริลลาภูเขา เข้าไปถึงได้อย่างยากลำบาก และมีกฎข้อห้ามอันแสนเข้มงวดหลายประการ ผู้เข้าชมจะต้องปฏิบัติตามกฎจึงจะสามารถเข้าไปได้ นั่นก็คือ…

• ห้ามสวมใส่เสื้อสีสันฉูดฉาด ต้องสวมสีทึบเท่านั้น
• ห้ามรับประทานอาหารหรือสูบบุหรี่ เพราะจะเป็นจะรบกวนกอริลลาภูเขา
• ห้ามส่งเสียงดัง
• ห้ามจ้องตา เพราะกอริลลาภูเขาจะเข้าใจว่าคุณต้องการสู้

ห้ามเข้าใกล้ ‘กอริลลาภูเขา’ เกินกว่า 7 เมตร และมีเวลาในการเยี่ยมชมไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น หากแต่อย่างไรก็ตามการเยี่ยมชมกอริลลาภูเขานั้น ไม่ได้หมายความจะสามารถพบเจอได้ในทุกครั้ง โดยบางครั้งคุณอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหา หรือถ้าโชคร้ายแบบสุดๆ คือ หาไม่เจอเลยก็มี หากแต่ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เจอแล้ว และผู้นำทางจะต้องเป็นชาวพื้นเมืองผู้ชำนาญ ใช้วิธีการตามร่องรอยจากกองมูล รวมทั้งเสาะหาพืชที่กอริลลาภูเขาชอบกิน